วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

รวมเรื่องของตู้เย็น (5)


 วิธีการเลือกตู้เย็น 

วันนี้เราจะมาดู วิธีการเลือกตู้เย็น ให้เหมาะกับการใช้งานภายในบ้านของเรากันนะคะ


1.  อันดับแรกเลย เราควรเลือกซื้อตู้เย็นที่มีฉลากประหยัดไฟค่ะ โดยฉลากนี้จะเป็นสติ๊กเกอร์
ที่ติดอยู่ที่ตู้เย็น ออกโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)เป็นผู้ตรวจสอบ
และรับรองคุณภาพ โดยเจ้าฉลากประหยัดไฟนั้น กำหนดเป็นตัวเลขตั้งแต่เลข 1-5 เลข 1
หมายถึงได้คะแนนประสิทธิภาพต่ำสุด และเลข 5 หมายถึงได้คะแนนประสิทธิภาพสูงสุด
น่ะนะคะ

2.ควรเลือกตู้เย็นให้เหมาะสมกับขนาดของครอบครัวค่ะ โดยคำนวนดังนี้ ขนาดประมาณ 2.5
 ลูกบาศก์ฟุต(คิว) เพียงพอสำหรับคน 2 คนแรกของครอบครัว จากนั้นก็เพิ่มขึ้นอีกประมาณ
1 ลูกบาศก์ฟุต (หรือเพิ่ม 1 คิว) ทุก ๆ 1 คนน่ะนะคะ

3.ควรเลือกตู้เย็นที่มีฉนวนกันความร้อนหนา และเป็นชนิดแบบโฟมอัด เพื่อไม่ให้มีการสูญเสีย
ความเย็นมากเกินไป

4.ตู้เย็น 2 ประตู จะกินไฟมากกว่าตู้เย็นประตูเดียวในขนาดความจุเท่ากันค่ะ เนื่องจากใช้ท่อ
น้ำยาเย็นที่ยาวกว่า แต่ในขณะเดียวกัน ตู้เย็นแบบ 2 ประตูนั้นก็จะมีการสูญเสียความเย็นน้อยกว่า

5.ตู้เย็นชนิดที่มีระบบละลายน้ำแข็งอันตโนมัติ จะกินไฟมากกว่าระบบที่มีปุ่มกดละลายน้ำแข็งเลือกซื้อตู้เย็นที่มีระบบไฟฟ้าชนิด 220-230 โวลต์เท่านั้น หากซื้อชนิด 110-120 โวลต์ เราก็
ต้องมาใช้หม้อแปลงลดแรงดัน จะทำให้กินกระแสไฟฟ้ามากขึ้นไปอีก




"เอาล่ะ..บอกมาซะดี ๆ แรนดี้ มีใครบางคน(บางตัว) กินแม้กเน็ตที่ติดฝาตู้เย็นไปอีกแล้ว
ใช่มั้ย" 5555+
ภาพและข้อมูลจาก http://baansanruk.blogspot.com

....................................................................................................

การดูแลรักษาตู้เย็น


ขั้นตอนการทำความสะอาด
1. เอาของที่เก็บไว้ในตู้เย็นออกจากตู้ให้หมด
2. ดึงปลั๊กไฟของตู้เย็นออกก่อน
3. ถอดชิ้นส่วนภายในของตู้เย็นที่สามารถถอดได้ออกมาล้างด้วยน้ำใช้ผ้าสะอาดเช็ดชิ้นส่วน
ที่ถอดออกมาล้างให้แห้งแล้ว เพื่อเตรียมประกอบกลับคืนเข้าไปในตู้เย็น
4. ปฏิบัติการละลายน้ำแข็ง จะช่วยให้ระบบความเย็นของตู้เย็นมีการหมุนเวียนได้เป็นอย่างดี
หากปล่อยให้น้ำแข็งตัวกันหนาแล้วจะทำให้ล้นออกมาจนไม่สามารถปิดประตูตู้ได้สนิทอีกด้วย
ส่วนอาหารที่แช่อยู่ในตู้เย็นเราควรที่จะนำออกมาห่อกระดาษหนังสือพิมพ์หลายๆ ชั้น เพราะจะ
ช่วยรักษาสภาพความเย็นไว้ได้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
5. ส่วนภายในและภายนอกของตู้เย็น ให้นำผ้าชุบน้ำอุ่นที่ผสมกับผงฟูเล็กน้อยเช็ดทำความสะอาด
หากเช็ดเป็นประจำจะช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะช่องเก็บผลไม้ เนื่องจาก
เป็นช่องที่อยู่ใต้สุดของตู้จึงทำให้มีน้ำขังอยู่เสมอ และในชั้นวางของด้านข้างของตู้เย็น ซึ่งจะเป็น
บริเวณที่เราใช้บ่อยที่สุด จึงมักจะมีคราบสกปรกติดอยู่เสมอ
6. ทำความสะอาดขดลวดที่อยู่ด้านหลังของตู้เย็นด้วยการดูดฝุ่นที่เกาะอยู่อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
ก็จะช่วยทำให้ขดลวดได้รับลมเย็นๆ และระบายความร้อนได้ดีมากขึ้น
7. แล้วเสียบปลั๊กไฟไว้เหมือนเดิม
หมายเหตุ : ในการทำความสะอาดตู้เย็นควรทำเป็นประจำเดือนละครั้ง
ข้อควรระวัง
- ในการเช็ดทำความสะอาดตู้เย็นไม่ควรใช้ผงซักฟอกเช็ดด้านในของตู้เด็ดขาด เพราะ
กลิ่นของผงซักฟอกจะเกาะติดอาหารที่อยู่ภายในตู้ อีกทั้งน้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อน ก็ควรจะหลีกเลี่ยง
อย่างเด็ดขาดเช่นกัน เพราะจะทำให้วงจรภายในตู้เย็นเสียหายได้
- การละลายน้ำแข็งภายในตู้เย็นไม่ควรใช้อุปกรณ์ใดๆ มางัดแงะน้ำแข็งออกเด็ดขาด
หากต้องการเร่งการสลายตัวของน้ำแข็งนั้น ควรจะเปิดประตูตู้ทิ้งไว้แล้วนำหม้อหรือขันโลหะ
ใส่น้ำอุ่นวางในช่องแข็งเพื่อเร่งให้น้ำแข็งละลายได้รวดเร็วขึ้น
- การนำอาหารใส่กลับเข้าไปในตู้เย็นหลังจากทำความสะอาดตู้เย็นเรียบร้อยแล้ว ควร
ทำความสะอาดห่อบรรจุอาหารเสียก่อน เพื่อป้องกันความชื้นที่ติดมากับหีบห่อ เพราะจะทำใ
ห้เกิดการจับตัวเป็นเกล็ดน้ำแข็งเกาะภายในตู้ซ้ำอีก
จากที่กล่าวมานี้จะเป็นได้ว่าเป็นวิธีการที่สามารถทำได้อย่างสะดวก ไม่สิ้นเปลือง
พลังงาน อีกทั้งยังช่วยประหยัดทั้งเงิน และเวลาได้อีกมาก หากเราทำเป็นประจำ
ก็จะช่วยให้ตู้เย็นของเราน่าใช้ ความสะอาดของตู้เย็นจะส่งผลให้สุขภาพของคน
ในครอบครัวดีตามไปด้วย
ภาพและข้อมูลจาก http://www.bloggang.com
....................................................................................................

จัดตู้เย็น สุขภาพดีเริ่มต้นง่ายๆ



ตู้เย็น คลังเสบียงประจำบ้านที่ถูกแวะเวียนไปใช้บริการอย่างไม่ขาดสาย รู้หรือไม่.. การจัดตู้เย็นไม่เป็นระเบียบ สักแต่จะใส่สารพัดสิ่งเข้าไปในตู้เย็นถือเป็นการทำลายสุขภาพทีละเล็กทีละน้อย ฉะนั้น! ถึงเวลาที่ต้องจัดระเบียบตู้เสบียง ยิ้มรับสุขภาพดีด้วยทริกง่ายๆ 
       
        บอกลาเพิ่มความอ้วน อาทิ ไอศกรีม เค้ก ช็อกฯแลต ฯลฯ
       ชั้นบนสุด - ผักผลไม้ วางเด่นสดุดตาง่ายต่อการหยิบทาน วางชั้นบนสุด
       ชั้นรองลงมา - ของกินเล่นอุดมวิตามินและแร่ธาตุบำรุงสมอง อาทิ ธัญพืช โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ฯลฯ
        ชั้นกลาง - เก็บเครื่องปรุง เลือกชนิดโซเดียมต่ำ, น้ำตาลต่ำ
        ชั้นล่าง - น้ำดื่มสะอาด นมถั่วเหลือง งดน้ำหวาน, น้ำอัดลม
       แปะข้อความเตือนใจในการดูแลสุขภาพ หน้าตู้เย็น


ภาพและข้อมูลจาก http://www.manager.co.th

....................................................................................................

5 ทริคดี ๆ จัดการอาหารและทำความสะอาดตู้เย็น



 เชื่อว่าต้องมีคุณแม่บ้าน คุณพ่อบ้านที่ชอบซื้อของมาเก็บไว้ในตู้เย็น แล้วลืมทิ้งเอาไว้ พอมาเจออีกทีอาหารก็เปลี่ยนสีซะแทบจำไม่ได้ว่าซื้ออะไรมาเก็บไว้บ้าง บางครั้งก็เผลอเอาของหมดอายุมากินซะอย่างนั้น ใครที่เจอปัญหาแบบนี้ต้องหาวิธีจัดการกับตัวคุณเองและตู้เย็นของคุณกันหน่อยแล้วล่ะ ซึ่งวิธีการจัดการอาหารและทำความสะอาดตู้เย็นนั้นก็ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย เพียงทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เท่านั้น     

 1. วิธีทำความสะอาด

          หลังจากที่คุณไม่ได้เช็คของในตู้เย็นมานานร่วมสัปดาห์ จนลืมไปแล้วว่าซื้ออะไรเก็บไว้บ้าง ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องรื้อของในตู้เย็นทั้งหมดออกมาแล้วเช็คดูสิว่ามีของอะไรที่หมดอายุหรือเปล่า จากนั้นก็จัดการละลายนำแข็งในช่องแช่แข็งซะ เมื่อน้ำแข็งละลายหมดแล้วก็ใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำ ในอัตราส่วน 50 : 50 เช็ดคราบสกปรกต่าง ๆ ออกให้หมด ส่วนพวกคราบเหนียว ๆ ก็ขัดบริเวณนั้นด้วยเกลือหรือเบกกิ้งโซดาให้เรียบร้อย


 2. วิธีจัดของเข้าตู้เย็น

          ทำง่าย ๆ แค่เพียงเลือกชนิดอาหารแล้วจัดแยกเอาไว้เป็นหมวดหมู่ จากนั้นก็ค่อย ๆ เก็บเข้าที่ประจำของมัน เช่น พวกเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ก็ควรใส่เอาไว้ในกล่องที่ปิดมิดชิดแล้วนำไปแช่ไว้ในช่องแช่แข็ง จะทำให้เก็บได้นานขึ้นถึง 2 - 3 สัปดาห์ ส่วนพวกผักสดต่าง ๆ ก็ควรใส่ไว้ในถุงและเจาะรูเพื่อระบายอากาศ  โดยให้เก็บไว้ชั้นล่างสุด เพราะหากเก็บไว้ในชั้นที่มีอุณหภูมิต่ำกว่านี้ ความเย็นจะทำลายแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ ซึ่งสามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 1 - 2 วัน เป็นระยะเวลาที่ดีที่สุดแล้วล่ะ หากคุณซื้อของเข้ามาเพิ่มก็นำของใหม่ใส่ไว้ด้านหลัง แล้วนำของเก่ามาไว้ด้านหน้าจะทำให้คุณเลือกหยิบได้สะดวกกว่า จะได้ไม่หมดอายุไปแบบไม่รู้ตัวอีก
    

 3. อย่าลืมเขียนวันที่บนถุงหรือกล่อง

          ของที่ซื้อมาบางอย่างนั้นไม่ได้ระบุวันหมดอายุไว้ด้วย ฉะนั้นคุณควรเขียนวันที่ซื้อลงไปบนถุงหรือกล่องเก็บอาหารของคุณด้วย โดยเฉพาะพวกเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ เพราะบางครั้งลักษณะภายนอกนั้นอาจจะดูปกติ แต่หากรับประทานเข้าไปก็อาจจะทำให้เกิดอาการท้องไส้ปั่นป่วนได้ ทางที่ดีก็เขียนวันที่กันลืมเอาไว้ก่อนดีกว่า

 4. ประหยัดพลังงาน

          อย่างที่คุณรู้ ๆ กันว่าควรจะเลือกตู้เย็นที่มีสัญลักษณ์เบอร์ 5 จะช่วยประหยัดไฟได้มากขึ้น ซึ่งคุณควรจะรู้ต่อไปอีกว่าไม่ควรเก็บของในตู้เย็นจนแน่นเกินไปเพราะ จะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น และเปลืองไฟมากกว่าเดิม และควรหมั่นสังเกตขอบยางที่ประตูตู้เย็นบ่อย ๆ หากเห็นว่ามีจุดชำรุดเสียหาย ก็ควรจะรีบเปลี่ยนขอบยางใหม่โดยด่วน เพราะหากขอบยางปิดไม่สนิทจะทำให้ความเย็นไหลออกและกินไฟมากขึ้น

 5. เคล็ดลับจัดการของสด

          หากคุณอยากจะซื้อผัก ผลไม้ หรือเนื้อสดชิ้นใหญ่ ๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่แช่นะคะ เพราะเรามีเคล็ดลับการเก็บของพวกนี้มาฝากกัน โดยที่คุณไม่ต้องจัดพื้นที่ใหม่เลย นั่นก็คือ นำผักและผลไม้ของคุณมาหั่นเป็นลูกเต๋าแล้วเก็บใส่ถุงหรือกล่อง แช่ไว้ในช่องแช่แข็ง เอาไว้จัดใส่จานสวย ๆ เป็นของทานเล่นหรือนำไปทำขนมหวานอย่างพวกผลไม้เชื่อมก็ได้ ส่วนเนื้อสัตว์ก็สไลด์เป็นชิ้นบาง ๆ เรียงเข้ากล่องให้สวยงาม ปิดฝาให้มิดชิดแล้วก็นำเข้าช่องแช่แข็งเช่นกัน แถมยังง่ายสำหรับการรับประทานอีกด้วย


          ทริคจัดของในตู้เย็นที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากกันคราวนี้คงลดเวลาทำความสะอาดบ้านของคุณแม่บ้าน คุณพ่อบ้านทั้งหลายไปได้เยอะเลยใช่ไหมคะ เพราะไม่ว่าจะหยิบจะจับอะไรมาทำกับข้าว ก็สะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องเสี่ยงกับการนำของที่หมดอายุมาปรุงอาหารกันอีกแล้ว เพราะตอนนี้คุณมีตู้เย็นที่ทั้งสะอาด ถูกสุขลักษณะ ปลอดภัย และยังช่วยคุณประหยัดพลังงานไว้ในบ้านของคุณด้วยล่ะ


ภาพและข้อมูลจาก http://home.kapook.com

....................................................................................................

อย่าลืมทำความสะอาดตู้เย็นกันบ้างนะ

หน้าร้อนมาเยือนแล้ว ตู้เย็นของคุณคงได้ทำงานหนักเพราะสารพัดของกินแช่เย็นที่คุณเก็บไว้กินแก้ร้อนแน่ๆ แบบนี้คุณจึงควรต้องดูแลความสะอาดภายในตู้เย็นด้วยนะ

* ดับกลิ่น หากล่องหนึ่งใบมาใส่ผงเบคกิ้งโซดา แล้วแช่ไว้ในตู้เย็น จะช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์จากกลิ่นอาหารนานาชนิดที่ปะปนกันในตู้เย็นได้
* ทำความสะอาด ในการทำความสะอาดตู้เย็น เมื่อเคลียร์พื้นที่ภายในตู้เย็นแล้ว โรยเบคกิ้งโซดาบนฟองน้ำชื้นๆ จากนั้น นำไปเข็ดทำความสะอาดพื้นที่ภายในตู้เย็น หากต้องการเพิ่มพลังขัดคราบเหนียวหรือซอสที่หกเลอะอยู่ ใช้เกลือมาเป็นผู้ช่วยเสริม ผสมกับเบคกิ้งโซดาในอัตราส่วนเท่าๆ กัน สำหรับกลิ่นสะอาดสดชื่น เติมได้ด้วยมะนาวเจ้าเก่า ผ่าครึ่งแล้วนำมาถูตามช่องใส่ของในตู้เย็นได้เลย

* ถาดแช่น้ำแข็ง เป็นสิ่งที่หลายๆคนมักจะลืมนึกถึงไป หากคุณไม่ล้างทำความสะอาด น้ำแข็งที่ออกมาอาจจะมีรสชาติแปลกๆ ไปก็ได้นะ และยังทำให้เกิดกลิ่นอับอีกด้วย วิธีทำความสะอาดง่ายๆคือใช้น้ำกับเบคกิ้งโซดาขัด แล้วล้างให้สะอาด

* ขอบยางที่ฝาตู้เย็น คุณอาจนึกไม่ถึงว่าแปรงสีฟันและยาสีฟันนี่แหละ คือผู้ช่วยให้ทำความสะอาดส่วนนี้ได้อย่างทั่วถึง

ภาพและข้อมูลจาก http://women.sanook.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น