วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555

วิจัยพบน้ำมันรำข้าว สารบำรุงเส้นผมเพียบ

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ รายงานว่า รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จับมือนาโนเทค
ต่อยอดผลิต"โลชั่นน้ำมันรำข้าวนาโนพาร์ทิเคิล" สรรพคุณบำรุงเส้นผม แก้ผมร่วง
ชะลอการเป็นหงอก


ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือนาโนเทค สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
แห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับโรงพยาบาล (รพ.)
เจ้าพระยาอภัยภูเบศร แถลงเปิดตัวผลิตภัณฑ์โลชั่นน้ำมันรำข้าวโนพาร์ทิเคิล ซึ่งเป็น 1
ในผลงานที่ทั้งสองหน่วยงานได้ร่วมกันทำวิจัย 


ภญ.วัจนา ตั้งความเพียร ตัวแทนจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เปิดเผยว่า
ผลิตภัณฑ์โลชั่นน้ำมันรำข้าวนาโนพาร์ทิเคิลถือเป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกของ รพ.อภัยภูบศร
ที่ผลิตเป็นนาโนเทคโนโลยี โดยขณะนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อรอขึ้นทะเบียน และเตรียมจะเปิดตัวในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ
ในเดือนกันยายนนี้ 


ภญ.วัจ นากล่าวอีกว่า ผลิตภัณฑ์นี้มีส่วนประกอบของน้ำมันรำข้าว ใบบัวบก และน้ำมันงา
ซึ่งในน้ำมันรำข้าวจะมีสารออกฤทธิ์สำคัญ คือ แกรมมาออไรซานอล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
และมีกรดไลโนอิก รวมทั้งไขมันต่างๆ ที่ช่วยบำรุงเส้นผม ส่วนใบบัวบกช่วยบำรุงรักษาหนังศีรษะ
และน้ำมันงาช่วยบำรุงเส้นผม โดยผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะช่วยทำให้ชะลอการหงอกของเส้นผม
ทำให้รากผมแข็งแรง บำรุงผม เส้นผมหลุดร่วงน้อยลง ทั้งนี้ผู้ใช้จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์เป็นเวลา 8 สัปดาห์ติดต่อกันจึงจะเห็นผล


ด้าน ดร.อภิรดา สุคนธ์พันธุ์ นักวิจัยห้องปฏิบัติการนาโนเวชสำอาง หน่วยวิจัยกลางนาโนเทค
สวทช. กล่าวว่า จากผลการทดสอบนาโนเซรั่ม พบว่าสามารถกระตุ้นการทดสอบจากเซลล์
รากผมได้ โดยช่วยในการออกฤทธิ์และซึมผ่านเข้าเซลล์ผมได้ดีขึ้น หลังจากพัฒนาสูตรแล้ว
นักวิจัยได้นำไปทดสอบกับอาสาสมัคร จำนวน 200 คน เป็นเวลา 24 ชั่วโมง พบว่าไม่มี
อาสาสมัครคนใดมีอาการแพ้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ จากนั้นจึงคัดเลือกอาสาสมัครที่มีสุขภาพผมดี
อีกจำนวน 30 คนเพื่อทดลองผลิตภัณฑ์ต่อ โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่ใช้ผลิตภัณฑ์ และกลุ่มที่ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ และพบว่ากลุ่มที่ใช้ผลิตภัณฑ์มีเส้นผมแข็งแรงกว่ากลุ่มที่ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์
ถึงร้อยละ 17 หลังจากทดลองดึงเส้นผมจากเครื่องดึงผม 


"สำหรับ กลุ่มเป้าหมายที่เหมาะจะใช้ผลิตภัณฑ์นี้คือ กลุ่มคนที่ผมร่วงง่าย รากผมไม่แข็งแรง
 คนที่มีศีรษะแห้ง หรือคันหนังศีรษะบ่อยๆ และผู้ที่มีผมขาว หรือผู้ที่ทำผม ดัด ทำสีผมบ่อยๆ
ซึ่งผมจะต้องการการบำรุงรักษาเป็นพิเศษ" ดร.อภิรดากล่าว

เตือน.....วัยรุ่นกินอาหารเสริมมากเสี่ยงทำให้ฉลาดน้อยลง






ประชาชาติธุรกิจออนไลน์รายงานว่าอินโฟเควสท์ กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ 
เตือนวัยรุ่นยุคใหม่นิยม กินอาหารเสริมแทนข้าว หวั่นทำให้ไอคิวต่ำ เป็นโรคขาดสารอาหารในยุคอาหารเสริมมาแรง ทั้งยาเสริมความขาว เพิ่มความสวย ช่วยให้รูปร่างผอมเพรียวกระชับ
เหมือนนางแบบ จนกลายเป็นแฟชั่นไม่พึงประสงค์ที่บรรดาวัยรุ่นติดกันงอมแงม เพราะหาซื้อง่าย ราคาถูก จนบางรายถึงขั้นกินวิตามิน และอาหารเสริมเหล่านี้แทนข้าวด้วยเข้าใจผิดว่า
ในผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีสารอาหารครบถ้วน แถมยังช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคอีกด้วย


นายสง่า ดามาพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและที่ปรึกษาสำนักโภชนาการ กรมอนามัย
กระทรวงสาธารณสุข รู้สึกเป็นห่วงเทรนด์อาหารเสริมของวัยรุ่นในปัจจุบันจึงได้ออกมาเตือนว่า
ความเชื่อดังกล่าวเป็นเรื่องที่ผิด โดยเฉพาะในวัยที่กำลังเจริญเติบโตอย่างวัยรุ่นจำเป็น
ต้องได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน อีกทั้งการกินอาหารเสริม
มากเกินไปอาจส่งผลให้ไอคิวต่ำลงได้อีกด้วย

"วัยรุ่นเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโต จำเป็นต้องได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและเพียงพอ
ซึ่งการหันไปกินอาหารเสริม เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารบางตัว ร่างกายได้รับสารอาหาร
ไม่ครบถ้วน มีโอกาสที่จะเป็นโรคขาดสารอาหาร อาจจะหวนกลับมาเป็นปัญหาใหม่ของ
กลุ่มวัยรุ่นไทยก็ได้ จากการกินอาหารเสริมแทนอาหารมื้อหลัก ซึ่งจะส่งผลให้มีร่างกาย
อ่อนแอ เพราะมีภูมิต้านทานโรคต่ำ มีอาการเซื่องซึม ไม่กระตือรือร้น และจะมีผลต่อ
เซลล์สมองที่ได้รับสารอาหารไม่เต็มที่ และการเจริญเติบโตของเซลล์สมองไม่เป็น
ไปตามปกติ ส่งผลให้การเรียนรู้ และสติปัญญาด้อยกว่าที่ควรจะเป็น ไอคิวต่ำลง
ซึ่งมีผลต่อการเรียนหนังสือและความจำด้วย" ผู้เชี่ยวชาญฯ กล่าว