ช่วงนี้ใครๆ ต่างก็บ่นเรื่องอากาศร้อน ศุกร์นี้ผู้เขียนจึงนำไอเดียการทำน้ำผักผลไม้ พร้อมเคล็ด(ไม่)ลับในการทำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพนี้ให้มีรสชาติดี ดื่มง่าย ได้สุขภาพมาฝากกันค่ะ
ก่อนอื่นขอกล่าวถึงหลักการทำน้ำผักผลไม้ ดื่มแล้วดีต่อสุขภาพ ควรเลือกใช้ผักและผลไม้ที่เราชอบ แต่มีเงื่อนไขว่า ต้องอยู่ในกลุ่มที่ให้วิตามิน แร่ธาตุมาก แต่แป้งและน้ำตาลน้อย ตัวอย่างผักที่ควรเลือกมาเป็นวัตถุดิบ ได้แก่ แครอท ขึ้นช่าย เซอเลอรี่ มะนาว มะเขือเทศ ใบบัวบก ฟักทอง ใบสะระแหน่ บีทรูท ส่วนผลไม้ ได้แก่ แอปเปิ้ลเขียว แอปเปิ้ลแดง ส้ม เสาวรส องุ่น กล้วย แตงโม กีวี อะโวคาโด สตอเบอรี่ สับปะรด ผลไม้ตระกูลเบอรี่ สำหรับผักและผลไม้ที่กล่าวมานั้น ล้วนแล้วแต่หาได้ง่ายตามซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลาดสดทั่วไป
และข้อควรคำนึงที่สำคัญ คือ ผักผลไม้ควรปลอดสารเคมี แต่หากเลือกไม่ได้คงต้องเน้นย้ำการล้างทำความสะอาดอย่างที่ผู้เขียนเคยบอกวิธีการล้างไว้ในบทความช่วงปลายปี ส่วนอุปกรณ์ในการทำน้ำต้องมี เครื่องปั่นไฟฟ้า เน้นว่า เครื่องปั่นไฟฟ้านะคะ เพราะหลายคนชอบใช้เครื่องคั้นน้ำผลไม้แบบแยกกาก ซึ่งผู้เขียนไม่ค่อยเห็นด้วยว่า ทำไมเราจึงเอากากใยอาหารที่มาจากธรรมชาติซึ่งแสนจะสำคัญกับระบบทางเดินอาหารและขับถ่าย แยกแล้วทิ้งไปกันล่ะ ดังนั้นขอย้ำนะคะว่า กากใยอาหารสำคัญกับเราพอควรเลย ไม่ควรแยกแล้วทิ้งค่ะ
การเลือกชนิดของผักผลไม้มาปั่นดื่ม ก็ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากๆ นะคะ เพราะถ้าเราทำไปมั่วๆ สุดท้ายอาจได้เครื่องดื่มที่มีประโยชน์มากก็จริง แต่รสชาติอาจถึงขั้นดื่มไม่ได้เลย เพื่อไม่ให้เป็นเช่นนี้ ผู้เขียนขอฝากเทคนิคไว้ว่า ให้ใช้ผลไม้ที่เราชอบเป็นตัวนำ หากผลไม้ชนิดนั้นกลิ่นรสแรง ควรต้องใช้ชนิดอื่นร่วมด้วย เพื่อให้ช่วยลดหรือกลบกลิ่นที่เราอาจไม่ชอบ
ยกตัวอย่าง เช่น ผู้เขียนไปเจอใบบัวบกสดขายอยู่ในตลาด เลยนึกอยากนำมาปั่น ซึ่งเจ้าใบบัวบกสดนั้น มีวิตามิน แร่ธาตุ และสารสำคัญมากมาย อาทิ ไทอะมิน(วิตามินบี 1) ไรโบฟลาวิน(วิตามินบี2) วิตามินบี6 วิตามินเค แอสพาเรต กลูตาเมต ซีริน ทรีโอนีน อลานีน ไลซีน ฮีสทีดิน แมกนีเซียม แคลเซียม โซเดียม ไตรเตอพีนอยด์ (อะซิเอติโคไซ) บราโมไซ บรามิโนไซ มาดิแคสโซไซ (เป็นไกลโคไซด์ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ) กรดมาดิแคสซิค
แต่ด้วยกลิ่นที่ค่อนข้างแรง ผู้เขียนจึงใช้เสาวรสที่มีกลิ่นรสหอมและเปรี้ยวอมหวาน อุดมไปด้วยวิตามินซี เพื่อเป็นการผสมเข้าไป ตามด้วยแอปเปิ้ลเขียว แครอท และเติมน้ำผึ้งลงไปอีกซัก 1 ช้อนชา ปั่นกับน้ำเย็นที่สะอาดพอประมาณให้ละเอียด นำไปแช่เย็นสักครู่ แค่นี้ก็ได้น้ำผักผลไม้ แบบ DIY (Do It Yourself) รสและกลิ่นชวนดื่ม ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุสารพัดชนิด ล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายเรา
นี่เป็นแค่สูตรตัวอย่างที่ผู้เขียนทำอยู่บ่อยๆ เพื่อให้คนที่บ้านดื่ม และขอเน้นย้ำอีกนะคะว่า ควรจะเป็นผัก ผลไม้สดเพื่อให้เราได้สารอาหารดีๆ อย่างครบครัน ยกเว้นฟักทอง บีทรูท ควรนำไปนึ่งให้สุกก่อนนะคะ ส่วนชิ้นของผักและผลไม้ก็จำเป็นที่จะต้องห่นเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนที่จะนำไปปั่น เพื่อไมให้เครื่องปั่นทำงานหนัก และได้น้ำผัก ผลไม้ที่มีเนื้อละเอียด
หากบ้านไหนมีเด็กๆ ที่อยากส่งเสริมให้ทานผัก ผลไม้ หลังจากนำไปปั่นเสร็จแล้ว มีอุบายง่ายๆ ให้เด็กดื่มทานได้ เช่น หาถาดน้ำแข็งรูปตัวการ์ตูนต่างๆ แล้วนำน้ำผักผลไม้ เทใส่ลงในพิมพ์ แช่แข็งจนเป็นน้ำแข็ง และนำมาให้เด็กๆ ทานเล่นได้
น้ำผักผลไม้ที่เราปั่นดื่มเอง ถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าน้ำผักผลไม้สำเร็จรูปที่มีขายตามท้องตลาดเสียอีก เนื่องจากผู้ผลิตบางรายมีการเติมน้ำตาลลงไป แถมยังทำมาจากน้ำผักผลไม้เข้มข้นซึ่งผ่านความร้อนมาแล้ว จึงเห็นได้ชัดว่า น้ำผักผลไม้ที่เราทำเองมีประโยชน์กว่าเป็นไหนๆ หรือใครได้ลองทำแล้วมีสูตรเด็ดๆ และอร่อย ก็นำมาแชร์กันได้นะคะ ขอให้มีสุขภาพดีในวันที่อากาศยังคงร้อนจัดนะคะ.