วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

โรคมือเท้าปาก ระบาดจากคนสู่คน


โรคมือเท้าปาก  กลายเป็นข่าวใหญ่ครึกโครมที่กำลังสร้างความหวาดวิตกให้แก่ทุกคนในขณะนี้
นับเป็น
โรคระบาดที่พบบ่อยในเด็กโดยเฉพาะเด็กวัยเรียน ซึ่งจะมีการระบาดในช่วงฤดูฝน สาเหตุนั้น
เกิดจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโรไวรัส (
enterovirus) ประกอบด้วยหลายสายพันธุ์ย่อย
ที่พบบ่อยได้แก่ สายพันธุ์คอกซากี (
coxackie virus) เอ16, เอ5, เอ9, เอ10, เอ1 และบี3 สายพันธุ์เอนเทอโรไวรัส 71 (human enterovirus 71, HEV71) และ สายพันธุ์ไวรัสเริม (herpes simplex viruses, HSV) 

โรคมือเท้าปาก สามารถติดต่อจาก "คนสู่คน" ด้วยการสัมผัสโดยตรงกับเชื้อไวรัสที่ออกมาทางน้ำลาย น้ำมูก
หรืออุจจาระของผู้ป่วย นอกจากนี้การไอจามรดกันสามารถแพร่กระจายเชื้อได้เช่นกัน
 
อาการของโรคมือเท้าปากในระยะเริ่มแรก คือ มีไข้ต่ำ ปวดเมื่อยตามตัว เบื่ออาหาร ปวดท้อง
 เจ็บภายในช่องปาก ต่อมาจะเริ่มมีแผลในปาก และผิวหนังตามลำดับ ส่วนมากจะพบบริเวณมือและเท้า
บางครั้งอาจพบบริเวณก้นเด็กได้ ลักษณะเฉพาะของแผลในช่องปาก คือบริเวณฐานของแผล
เป็นสีเหลืองและล้อมรอบด้วยวงสีแดง ส่วนมากเกิดที่บริเวณริมฝีปาก หรือเยื่อบุช่องปาก
แต่บางครั้งแผลอาจเกิดขึ้นบริเวณลิ้น เพดานปาก ลิ้นไก่ ทอนซิล หรือเหงือกได้ โรคนี้มักไม่พบผื่น
บริเวณรอบริมฝีปาก แผลในช่องปากจะมีอาการเจ็บมาก ในเด็กอายุต่ำกว่า
5 ปีจะมีอาการป่วยได้บ่อยที่สุด

การดูแลผู้ป่วยเบื้องต้น ต้องทำอย่างไรบ้าง?
                 ดูแลรักษาตามอาการ เช่น การเช็ดตัวลดไข้ การให้ยาลดไข้ การให้ยาตามอาการ เช่น
ยาชาป้ายแผลในปาก ประเมินภาวะร่างกายขาดน้ำ ซึ่งมีความสำคัญมากสำหรับผู้ป่วยเด็ก การประเมินว่า
ร่างกายขาดน้ำหรือไม่ สามารถประเมินได้จากอัตราการเต้นของชีพจร ความยืดหยุ่นของผิวหนัง
ความแห้งของตา ปริมาณน้ำตาขณะที่เด็กร้องไห้ ความแห้งของเยื่อบุช่องปาก รวมถึงประเมิน
จากปริมาณและความถี่ของปัสสาวะ

สังเกตอาการแทรกซ้อน
                การติดเชื้อที่ผิวหนัง พบได้บ่อยที่สุด เกิดภาวะขาดน้ำ เนื่องจากดื่มน้อยลงจากการ
เจ็บแผลในช่องปาก ส่วนน้อยอาจเกิดอาการแทรกซ้อนของระบบประสาท และระบบไหลเวียนโลหิต
หากบุตรหลานมีอาการป่วย ควรทำอย่างไร
? ควรแยกเด็กป่วยเพื่อป้องกันเชื้อแพร่ไปยังเด็กคนอื่น
ผู้ปกครองควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์ และรักษาตัวที่บ้านอย่างน้อย
5-7 วัน หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ
                 ระหว่างนี้ควรสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น แต่หากเด็กมีอาการแทรกซ้อน เช่น ไข้สูง
 ซึม อาเจียน หอบ ต้องรีบพากลับไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที ไม่ควรพาเด็กไปสถานที่แออัด
เช่น สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ ตลาด และห้างสรรพสินค้า ควรให้เด็กอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก
ควรใช้ผ้าปิดจมูกปากขณะไอจาม และระมัดระวังการไอจามรดกัน ผู้ดูแลเด็กต้องหมั่นล้างมือให้สะอาด
ทุกครั้งหลังจากสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระของเด็กที่ป่วย

หากมีเด็กป่วยจำนวนมากในโรงเรียน หรือสถานรับเลี้ยงเด็ก ควรทำอย่างไร ?
                หากพบการระบาดของโรคมือเท้าปาก หรือมีผู้ป่วยติดเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 อยู่ภายใน
โรงเรียนหรือศูนย์เด็กเล็ก แนะนำให้ปิดชั้นเรียนที่มีเด็กป่วยมากกว่า
2 คน หากมีการป่วยกระจาย
ในหลายชั้นเรียนแนะนำให้ปิดโรงเรียนเป็นเวลา
5 วัน พร้อมทำความสะอาดอุปกรณ์รับประทาน
อาหาร ของเล่นเด็ก ห้องน้ำ สระว่ายน้ำ และให้มั่นใจว่าน้ำมีระดับคลอรีนที่ไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน

               ทำความสะอาดสถานที่เพื่อฆ่าเชื้อโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณห้องน้ำ สระว่ายน้ำ
 โรงครัว โรงอาหาร บริเวณที่เล่นของเด็ก สนามเด็กเล่น โดยใช้สารละลายเจือจางของน้ำยา
ฟอกขาวผสมในอัตราส่วน
20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 1 ลิตร หรือใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ใช้ตาม
บ้านเรือน แล้วเช็ดด้วยน้ำสะอาด ทำความสะอาดของเล่นและเครื่องใช้ของเด็กด้วยการซักล้าง
แล้วผึ่งแดดให้แห้ง ไม่ควรใช้เครื่องปรับอากาศ แต่แนะนำให้ระบายอากาศโดยการเปิดประตู
หน้าต่าง ผ้าม่าน ให้แสงแดดส่องได้ทั่วถึง ถ้าพบอาการดังที่กล่าวมาขั้นต้นควรรีบพาผู้ป่วยไป
พบแพทย์โดยด่วน เพื่อเป็นการร่วมกันยับยั้งการแพร่ระบาดของ
โรคมือเท้าปาก 
............................................................
(
โรคมือเท้าปาก มหันตภัยร้ายจากคนสู่คน : โดย...ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ   เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ )



วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

หญิงเป็นมะเร็งเกือบตายเพราะรอจนอายุ 65 เพื่อใช้สิทธิประกันสุขภาพ


           ข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่าสำนักข่าวรอยเตอร์กล่าวว่า คณะแพทย์ใน
รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดก้อนเนื้อมะเร็งน้ำหนัก
51 ปอนด์ (23 กิโลกรัม) ออกจากร่างของสตรีผู้หนึ่งซึ่งขอเลื่อนการผ่าตัด
มานานกว่า
1 เดือน เพื่อจะได้สิทธิ์ประกันสุขภาพผู้สูงอายุ 
       

       เธอเป็นผู้หญิงร่างผอมบาง แต่ท้องมีขนาดโตมาก ดูเหมือนคนท้องลูกแฝดสาม
ดร.เดวิด ดูปรี หัวหน้าคณะแพทย์ผู้ผ่าตัดให้กับ เอเวอลีน วัย 65 ปี ที่ศูนย์พยาบาลริเวอร์วิว
 เมืองเรดแบงก์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ระบุ

       
       ก่อนจะมาโรงพยาบาลประมาณ 6-8 สัปดาห์ เอเวอลีนรู้สึกเจ็บภายในช่องท้อง
และน้ำหนักตัวปกติ
54.5 กิโลกรัมก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

       
       ดูปรีเปิดเผยว่า คนไข้รายนี้มาพบแพทย์เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน หลังอายุครบ 65 ปี
ได้เพียง
4 วัน ซึ่งทำให้เธอมีสิทธิ์ใช้ประกันสุขภาพผู้สูงอายุ

       
       “ที่เธอไม่ยอมมาพบแพทย์ก่อนหน้านี้เพราะยังไม่มีประกันแพทย์ระบุ
       
       น้ำหนักของเอเวอลีนพุ่งพรวดถึง 77 กิโลกรัม ขาบวมเพราะเส้นเลือดขอด และร่างกาย
สูญเสียน้ำไปมาก จากการสแกนพบก้อนมะเร็งขนาดใหญ่กดทับเส้นเลือด
inferior vena cava
ที่นำเลือดกลับสู่หัวใจ ซึ่งอยู่ในขั้นเสี่ยงต่อการเสียชีวิต

       
       สุขภาพของเอเวอลีนอ่อนแอเกินกว่าจะผ่าตัดได้ทันที ดูปรีจึงนัดผ่าตัดในวันที่ 11 มิถุนายน
 เพื่อให้เธอปรับสมดุลน้ำในร่างกาย และควบคุมความดันโลหิตให้ปกติเสียก่อน

       
       อย่างไรก็ตาม เอเวอลีนเกิดอาการหายใจไม่ออกในเย็นวันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน
คณะแพทย์จึงตัดสินใจทำการผ่าตัดทันที

       
       หลังผ่าช่องท้องออกดู ดูปรีและทีมแพทย์พบก้อนเนื้อมะเร็งซึ่งเกิดจากเนื้อเยื่อไขมัน
รอบๆลำไส้แผ่คลุมอวัยวะภายในหลายจุด จนแพทย์ต้องใช้เวลาถึง
5 ชั่วโมงค่อยๆ
ตัดเนื้อร้ายออก 
ทีละมิลลิเมตร  ” และก้อนมะเร็งที่พบนั้นมีน้ำหนักถึง 51 ปอนด์ หรือ
23 กิโลกรัม
 
       
       
    และเอเวอลีนยังคงรักษาตัวอยู่ที่ศูนย์พักฟื้น และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ
       
       แม้จะตัดเนื้อร้ายออกแล้ว แต่คุณป้ารายนี้ยังต้องอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
ด้านเนื้องอกต่อไปอีก เนื่องจากการผ่าตัดอาจไม่ได้กำจัดเซลล์มะเร็งออกไปทั้งหมด
และอาจต้องเข้ารับการฉายรังสีหรือเคมีบำบัดร่วมด้วย


         น่ากลัวจัง และทำให้ได้รับความรู้อีกอย่างนึงว่า คนธรรมดาในสหรัฐอเมริกา
ไม่มีบัตรทอง
รักษาทุกโรคเหมือน
คนไทยนะ ต้องรอให้อายุ 65  ปี ก่อนค่อยใช้สิทธิประกันสุขภาพผู้สูงอายุ หรือมิฉะนั้นก็ทำประกันสุขภาพหรือประกันชีวิตซะดีๆ
มิฉะนั้นจะมีชิวิตที่น่าสงสาร
กว่าคนไทยมาก..ถึงมากที่สุด 

วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ห้องพักในโรงแรม คุณว่าจุดไหนสกปรกที่สุด



พิเศษสำหรับคนที่ชอบใช้บริการห้องพักในโรงเเรมนะคะ

นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยฮิวสตันในรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ ร่วมกับนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเพอร์ดิว และมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซาท์คาโรไลน่าทำการสำรวจโรงแรมเก้าแห่งในสามมลรัฐ โดยเก็บตัวอย่างจากจุดต่างๆ 19 จุดในห้องพักของโรงแรม และพบว่า



นอกจากที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าในห้องน้ำ ที่นั่งของโถส้วม และพื้นห้องแล้ว 

อีกสองจุดซึ่งเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียมากที่สุดคืออุปกรณ์รีโมทเปิดปิดโทรทัศน์และสวิตช์ไฟหัวเตียง โดยรีโมทเปิดปิดโทรทัศน์นั้นจะมีแหล่งเพาะพันธ์เชื้อแบคทีเรียอยู่หนาแน่นมากที่สุด คือเฉลี่ย 112.7 กลุ่มต่อพื้นที่หนึ่งตารางเซ็นติเมตร ส่วนที่สวิตช์ไฟหัวเตียงจะมีอยู่ 67.6 กลุ่มโดยเฉลี่ย และที่แป้นกดตัวเลขของโทรศัพท์ก็จะมีแหล่งเพาะเชื้อนี้อยู่ราว 20.2 กลุ่มเช่นกัน 

นักวิจัยบอกด้วยว่าฟองน้ำและที่ถูพื้นก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียที่สำคัญซึ่งสามารถช่วยแพร่เชื้อจากห้องหนึ่งไปยังห้องอื่นๆได้ด้วย

นักวิจัยเตือนว่าการตรวจดูความสะอาดในห้องพักด้วยสายตาอย่างเดียวนั้นยังไม่พอ เพราะผลการสำรวจล่าสุดของบริษัทที่ปรึกษา Booz Allenพบว่า ผู้เข้าพักในโรงแรมขณะนี้ให้ความสำคัญกับห้องพักที่สะอาดและได้รับการดูแลรักษาอย่างดี มากกว่าการบริการลูกค้าหรือการต้อนรับอื่นๆ

อย่าลืมให้ความสำคัญกับความสะอาดของอุปกรณ์ต่างๆในห้องด้วย นอกเหนือจากความสะอาดของพื้นห้อง เตียงและของบนเตียง 

กินหมึกชุบแป้งทอด แล้วเพาะพันธุ์ในปาก


เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2555  หนังสือพิมพ์มติชนรายวันรายงานว่า สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ามีหญิงเกาหลีใต้วัย 63 ปี รายหนึ่งสุดเคราะห์ร้าย ประสบอาการเรียกว่า"ท้องในปาก"  เนื่องจากกินหมึกชุบแป้งทอด  แต่ปลาหมึก   เจ้ากรรมกลับเพาะพันธุ์หมึกอ่อนทิ้งไว้ในปากของเธอ โดยปากของเธอมีลูกหมึกอ่อนเป็นจำนวน 12 ตัว โดยก่อนหน้านี้ เธอเผยกับแพทย์ว่า เธอรุ้สึกเหมือนมีบางสิ่งอยู่ในปากที่คล้ายเชื้อโรคลุกลาม ก่อนที่แพทย์จะตรวจดูอาการ และพบว่าเธอมีลูกปลาหมึกอยู่ในปาก        โดยตัวหมึกอ่อนเหล่านี้มีลักษณะเป็นฝักเล็ก ๆ ถูกสารบางอย่างห่อหุ้มไว้เพื่อใช้เกาะตัว และในตัวลูกปลาหมึกเหล่านี้ยังมีสเปิร์มปลาหมึก และระบบปล่อยสเปิร์มที่แข็งแรง

รายงานระบุว่า ภายหลังการตรวจพบดังกล่าว แพทย์ได้ทำการดึงเอาตัวหมึกอ่อนเหล่านี้ออกจากปาก ลิ้น และแก้มของเธอ โดยขณะนั้นตัวหมึกอ่อนได้ก่อตัวเป็นโครงสร้างปลาหมึกที่เกิดจากสเปิร์มแล้ว ขณะที่แพทย์เผยว่า หญิงรายได้ไม่ได้เคี้ยวหมึกอ่อน แต่กลืนเข้าปากทันที อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า กรณีนี้ยังเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจว่า กลุ่มสเปิร์มของตัวหมึกอ่อนสามารถฝังเข้าไปยังผิวหนัง หรือในปากของคนได้อย่างไร

ทั้งนี้ กรณีนี้ยังคล้ายกับหญิงญี่ปุ่นรายหนึ่งที่เกิดอาการเจ็บปากหลังกินหมึกดิบเข้าไป โดยมีหมึกอ่อนติดปาก และแพทย์ได้ถอนเข้าหมึกอ่อนและถุงสเปิร์มออกจากปากของเธอ

อ่านแล้ว ก็ระวังกันไว้บ้างก็แล้วกันสำหรับคนที่ชอบกินไข่ปลาหมีกชุบแป้งทอด ก็ดูที่ทอดสุกๆก็แล้วกัน เดี๋ยวจะเป็นเหมือนในข่าวอีกราย

วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

นิตยสารเดนมาร์ก ผู้หญิงเลี้ยงแมวเสี่ยงฆ่าตัวตาย

นายทีโอดอร์ พอสโทลาช นักวิจัยอาวุโสจากมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ ระบุว่า
ผลการวิจัยซึ่ง
เกิดจากการเก็บข้อมูลจาก
ผู้หญิงจำนวน 45,000 คน ในประเทศเดนมาร์ก พบว่าผู้หญิงซึ่งติดเชื้อปรสิต
  ที กอนดิไอจากมูลแมวส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะพยายามฆ่าตัวตายเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งผลการวิจัยดังกล่าวอาจไม่สามารถสรุปว่าการติดเชื้อปรสิตที กอนดิไอ จะส่งผลที่แน่นอนให้ผู้หญิงพยายามฆ่าตัวตาย แต่จากผลวิจัยพบข้อมูลที่เชื่อมโยงกันได้ระหว่างการติดเชื้อที กอนดิไอ และการ
พยายามฆ่าตัวตายในภายหลัง



ใครเลี้ยงแมวก็ระวังโรคนี้ไว้บ้างก็ดีนะ    เราไม่รู้ว่าในไทยจะมีเชื้อปรสิตชนิดนี้หรือเปล่านะ

วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

โยเกิร์ตระงับกลิ่นปาก




    ใครว่ากลิ่นปากเป็นเรื่องเล็ก
จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลให้บุคลิกของคุณติดลบได้ง่ายๆ ต่อรูปให้สวย รวยทรัพย์ แต่ปากเหม็น เสน่ห์ทุกอย่างก็หมดกันค่ะ งานนี้"คุณเคนอิชิ โฮโจ" และทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยสึรูมิ ในเมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการวิจัยและพบว่าแบคทีเรียที่อยู่ในโยเกิร์ต โดยเฉพาะแบคทีเรียชนิด Streptococcus thermophilus และ Lactobacillus bulgaricus อาจมีผลต่อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุให้เกิดกลิ่นเหม็นในปากคนเราได้ โดยจากการทดลองพบว่าการกินโยเกิร์ตเป็นประจำทุกวัน วันละ 6 ออนซ์ (ประมาณ 1 ถ้วย) จะช่วยลดปริมาณสารที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นในปาก อย่างเช่น ไฮโดรเจนซัลไฟต์ นอกจากนี้ในบรรดาผู้ที่ชอบกินโยเกิร์ตนั้นจะมีปริมาณคราบแบคทีเรียบนผิวฟัน (plaque) และอาการของโรคเหงือกอักเสบน้อยกว่าคนทั่วไปอีกด้วย


ว้าว!  ต้องรีบหาโยเกิร์ต มากิน ลดกลิ่นปากหน่อยแล้วละ

From  http://variety.teenee.com