เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2555 หนังสือพิมพ์มติชนรายวันรายงานว่า สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ามีหญิงเกาหลีใต้วัย 63 ปี รายหนึ่งสุดเคราะห์ร้าย ประสบอาการเรียกว่า"ท้องในปาก" เนื่องจากกินหมึกชุบแป้งทอด แต่ปลาหมึก เจ้ากรรมกลับเพาะพันธุ์หมึกอ่อนทิ้งไว้ในปากของเธอ โดยปากของเธอมีลูกหมึกอ่อนเป็นจำนวน 12 ตัว โดยก่อนหน้านี้ เธอเผยกับแพทย์ว่า เธอรุ้สึกเหมือนมีบางสิ่งอยู่ในปากที่คล้ายเชื้อโรคลุกลาม ก่อนที่แพทย์จะตรวจดูอาการ และพบว่าเธอมีลูกปลาหมึกอยู่ในปาก โดยตัวหมึกอ่อนเหล่านี้มีลักษณะเป็นฝักเล็ก ๆ ถูกสารบางอย่างห่อหุ้มไว้เพื่อใช้เกาะตัว และในตัวลูกปลาหมึกเหล่านี้ยังมีสเปิร์มปลาหมึก และระบบปล่อยสเปิร์มที่แข็งแรง
รายงานระบุว่า ภายหลังการตรวจพบดังกล่าว แพทย์ได้ทำการดึงเอาตัวหมึกอ่อนเหล่านี้ออกจากปาก ลิ้น และแก้มของเธอ โดยขณะนั้นตัวหมึกอ่อนได้ก่อตัวเป็นโครงสร้างปลาหมึกที่เกิดจากสเปิร์มแล้ว ขณะที่แพทย์เผยว่า หญิงรายได้ไม่ได้เคี้ยวหมึกอ่อน แต่กลืนเข้าปากทันที อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า กรณีนี้ยังเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจว่า กลุ่มสเปิร์มของตัวหมึกอ่อนสามารถฝังเข้าไปยังผิวหนัง หรือในปากของคนได้อย่างไร
ทั้งนี้ กรณีนี้ยังคล้ายกับหญิงญี่ปุ่นรายหนึ่งที่เกิดอาการเจ็บปากหลังกินหมึกดิบเข้าไป โดยมีหมึกอ่อนติดปาก และแพทย์ได้ถอนเข้าหมึกอ่อนและถุงสเปิร์มออกจากปากของเธอ
อ่านแล้ว ก็ระวังกันไว้บ้างก็แล้วกันสำหรับคนที่ชอบกินไข่ปลาหมีกชุบแป้งทอด ก็ดูที่ทอดสุกๆก็แล้วกัน เดี๋ยวจะเป็นเหมือนในข่าวอีกราย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น