ข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่าสำนักข่าวรอยเตอร์กล่าวว่า คณะแพทย์ใน
รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดก้อนเนื้อมะเร็งน้ำหนัก51 ปอนด์ (23 กิโลกรัม ) ออกจากร่างของสตรีผู้หนึ่งซึ่งขอเลื่อนการผ่าตัด
มานานกว่า 1 เดือน เพื่อจะได้สิทธิ์ประกันสุขภาพผู้สูงอายุ
รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดก้อนเนื้อมะเร็งน้ำหนัก
มานานกว่า 1 เดือน เพื่อจะได้สิทธิ์ประกันสุขภาพผู้สูงอายุ
“เธอเป็นผู้หญิงร่างผอมบาง แต่ท้องมีขนาดโตมาก ดูเหมือนคนท้องลูกแฝดสาม”
ดร.
เมืองเรดแบงก์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ระบุ
ก่อนจะมาโรงพยาบาลประมาณ 6-8 สัปดาห์ เอเวอลีนรู้สึกเจ็บภายในช่องท้อง
และน้ำหนักตัวปกติ 54.5 กิโลกรัมก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ดูปรีเปิดเผยว่า คนไข้รายนี้มาพบแพทย์เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน หลังอายุครบ 65 ปี
ได้เพียง 4 วัน ซึ่งทำให้เธอมีสิทธิ์ใช้ประกันสุขภาพผู้สูงอายุ
“ที่เธอไม่ยอมมาพบแพทย์ก่อนหน้านี้เพราะยังไม่มีประกัน” แพทย์ระบุ
น้ำหนักของเอเวอลีนพุ่งพรวดถึง
สูญเสียน้ำไปมาก จากการสแกนพบก้อนมะเร็งขนาดใหญ่กดทับเส้นเลือด inferior vena cava
ที่นำเลือดกลับสู่หัวใจ ซึ่งอยู่ในขั้นเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
สุขภาพของเอเวอลีนอ่อนแอเกินกว่าจะผ่าตัดได้ทันที ดูปรีจึงนัดผ่าตัดในวันที่ 11 มิถุนายน
เพื่อให้เธอปรับสมดุลน้ำในร่างกาย และควบคุมความดันโลหิตให้ปกติเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม เอเวอลีนเกิดอาการหายใจไม่ออกในเย็นวันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน
คณะแพทย์จึงตัดสินใจทำการผ่าตัดทันที
หลังผ่าช่องท้องออกดู ดูปรีและทีมแพทย์พบก้อนเนื้อมะเร็งซึ่งเกิดจากเนื้อเยื่อไขมัน
รอบๆลำไส้แผ่คลุมอวัยวะภายในหลายจุด จนแพทย์ต้องใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมงค่อยๆ
ตัดเนื้อร้ายออก “ทีละมิลลิเมตร ” และก้อนมะเร็งที่พบนั้นมีน้ำหนักถึง 51 ปอนด์ หรือ
23 กิโลกรัม
และเอเวอลีนยังคงรักษาตัวอยู่ที่ศูนย์พักฟื้น และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ
แม้จะตัดเนื้อร้ายออกแล้ว แต่คุณป้ารายนี้ยังต้องอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
ด้านเนื้องอกต่อไปอีก เนื่องจากการผ่าตัดอาจไม่ได้กำจัดเซลล์มะเร็งออกไปทั้งหมด
และอาจต้องเข้ารับการฉายรังสีหรือเคมีบำบัดร่วมด้วย
แม้จะตัดเนื้อร้ายออกแล้ว แต่คุณป้ารายนี้ยังต้องอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
ด้านเนื้องอกต่อไปอีก เนื่องจากการผ่าตัดอาจไม่ได้กำจัดเซลล์มะเร็งออกไปทั้งหมด
และอาจต้องเข้ารับการฉายรังสีหรือเคมีบำบัดร่วมด้วย
น่ากลัวจัง และทำให้ได้รับความรู้อีกอย่างนึงว่า คนธรรมดาในสหรัฐอเมริกา
ไม่มีบัตรทองรักษาทุกโรคเหมือนคนไทยนะ ต้องรอให้อายุ 65 ปี ก่อนค่อยใช้สิทธิประกันสุขภาพผู้สูงอายุ หรือมิฉะนั้นก็ทำประกันสุขภาพหรือประกันชีวิตซะดีๆ
มิฉะนั้นจะมีชิวิตที่น่าสงสารกว่าคนไทยมาก..ถึงมากที่สุด
ไม่มีบัตรทองรักษาทุกโรคเหมือนคนไทยนะ ต้องรอให้อายุ 65 ปี ก่อนค่อยใช้สิทธิประกันสุขภาพผู้สูงอายุ หรือมิฉะนั้นก็ทำประกันสุขภาพหรือประกันชีวิตซะดีๆ
มิฉะนั้นจะมีชิวิตที่น่าสงสารกว่าคนไทยมาก..ถึงมากที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น