วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

5 กลิ่นอาหาร ที่จะช่วยให้คุณผอม!


1. กลิ่นน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 


                                                 

ผลการศึกษาจากศูนย์วิจัยเคมีอาหารของเยอรมนีพบว่า เพียงสูดกลิ่นน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 

ก็สามารถทำให้เรารู้สึกอิ่มขึ้นมาได้ง่าย ๆ และยังได้ทำการทดลองใส่น้ำมันมะกอกสกัดลงใน
โยเกิร์ต และพบว่า คนที่รับประทานโยเกิร์ตที่ใส่น้ำมันสกัด จะมีอัตราบริโภคแคลอรี่น้อยลง 
และมีระดับน้ำตาลในเลือดที่ดีขึ้นกว่าคนที่กินโยเกิร์ตธรรมดา นอกจากนี้น้ำมันมะกอก
บริสุทธิ์ยังช่วยกระตุ้นสารเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้รู้สึกอิ่ม และยังอุดมไปด้วย MUFAs 
ไขมันดีที่ช่วยเผาผลาญไขมันบนหน้าท้องเราด้วย 

2. กลิ่นกระเทียม 
                                           


กลิ่นที่รุนแรงของอาหารจะทำให้เรากินอาหารได้น้อยลง ดังนั้นหากไม่อยากรับประทานเยอะเกินไป 

ก็ลองสั่งเมนูที่มีส่วนประกอบของเครื่องเทศกลิ่นแรงอย่าง พริก กระเทียม หอม พริกไทย หรือจะใส่
เครื่องเทศเหล่านี้ลงในอาหารที่กำลังจะทานสักเล็กน้อยก็ได้


3. กลิ่นแอปเปิลเขียว และกลิ่นกล้วย 





ผลการศึกษาจากองค์กรการบำบัดด้วยกลิ่นและรสชาติพบว่า คนอ้วนที่ดมกลิ่นแอปเปิลเขียว 

และกล้วยในขณะที่หิวจัด จะลดน้ำหนักได้มากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นเพราะกลิ่นหอมในระดับพอดี ๆ 
ของผลไม้ทั้ง 2 ชนิดนี้ ที่ทำให้ร่างกายควบคุมความอยากอาหารได้ดีกว่าปกติ ซึ่งนอกจาก
กล้วยและแอปเปิลเขียวแล้ว กลิ่นวานิลลาและกลิ่นเปปเปอร์มินต์ก็ใช้ทดแทนได้เหมือนกัน

4. กลิ่นยี่หร่า 




ชาวอิตาลีใช้ยี่หร่าล้างปากระหว่างมื้ออาหารเพื่อไม่ให้ทานอาหารมากเกินไป ซึ่งสอดคล้องกับ

การศึกษาของ West Coast Institute of Aromatherapy ที่บอกว่า ยี่หร่ามีสรรพคุณยับยั้ง
ความอยากอาหาร และทำให้เรากินอาหารได้น้อยลง

5. กลิ่นเกรปฟรุต หรือผลไม้จำพวกส้ม 

                                       

ผลไม้ตระกูลส้มเป็นผลไม้ที่คนไดเอตมักจะทานเพื่อให้น้ำหนักลด เพราะมีไลโคปีน วิตามินซี 

และไซตรัสสูง แต่แค่กลิ่นของมันก็สามารถช่วยลดน้ำหนักได้แล้ว โดยผลการวิจัยของมหาวิทยาลัย
โอกาซา ประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการทดลองกับหนูและพบว่า หนูที่ได้กลิ่นน้ำมันเกรปฟรุต 15 นาที 
จะช่วยลดความอยากอาหารและทำให้น้ำหนักลดลงด้วย ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่า กลิ่นของผลไม้จำพวกส้ม 
น่าจะมีผลต่อเอนไซม์ในตับเรานั่นเอง


ภาพจากอินเทอร์เน็ตและข้อมูลจาก http://www.kruthai.info

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น