วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2555

10 เมนูสุขภาพรับปี 2556


ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นาชาติ แนะนำ 10 เมนูสุขภาพรับปี 2556 สไตล์อายุรวัฒน์ เผยส้มตำไก่ย่าง เมี่ยงปลาทู เขียวหวานไก่ ผัดไทย สุดยอดอาหารต้านชรา เพราะผักในเมนูดังกล่าวล้วนเป็นสุดยอดวิตามิน เช่นมะละกอช่วยล้างพิษ มะเขือเทศป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก พริกบำรุงสายตา  
นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าวแนะนำสุดยอดอาหารสไตล์อายุรวัฒน์ ต้านชรา ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 10 เมนู คือ

1.ส้มตำไก่ย่าง  ที่สุดของอาหารต้านชรา  ในส้มตำมีสุดยอดวิตามินอย่าง มะเขือเทศที่ช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากและเต้านม  ส่วนมะละกอช่วย ล้างพิษให้กับลำไส้น้อย-ใหญ่  ในมะละกอยังมีน้ำย่อย ปาเปนช่วยล้างทำความสะอาดลำไส้ให้ปลอดคราบโปรตีนเกาะ ส่วนการรับประทานคู่กับไก่ย่างนั้นมีข้อดีคือทำให้ไม่ขาดโปรตีน  และที่สำคัญคือ ไม่อ้วนเท่าการกินกับข้าวเหนียวหรือกินแบบหนักแป้งด้วย


 2.แกงเขียวหวานไก่ ในน้ำแกงเขียวหวานเป็นอาหารทิพย์ที่อุดมไปด้วยวิตามิน น้ำแกงเข้มข้นหอมมันคือ ซุปวิตามินชั้นดีที่มีทั้งวิตามินเอ, ดี, อีและเคที่ละลายอยู่ในกะทิ ส่วนในเนื้อไก่มีวิตามินบีที่ช่วยบำรุงสมอง  อีกทั้งในพริกที่ใส่เป็นเครื่องแกงมี กรดแคปไซซินกับ เบต้าแคโรทีนที่ช่วยบำรุงสายตาด้วย


3.เมี่ยงปลาทู  ได้ทั้ง ซัลโฟราเฟนเป็นกลุ่มสารต้านมะเร็งจากใบคะน้าห่อเมี่ยง ถ้าให้ดีต้องหยิบ มะเขือเทศราชินีหั่นเสี้ยวใส่เข้าไปด้วยจะช่วยให้ผิวพรรณสวย  ส่วนในเนื้อปลาทูมีทั้งกรดไขมันดีและ แอสตาแซนทินเพราะวิตามินนี้โดยมากละลายในไขมัน

4.ผัดไทย มีทั้งถั่วงอกที่ถือเป็นอาหารมงคลรับปีใหม่ด้วยหมายถึงการงอกงามของสิ่งใหม่ๆ ในถั่วงอกมี วิตามินซีนอกจากนั้นถั่วและเต้าหู้ในผัดไทยยังอุดมไปด้วยวิตามินอี,แคลเซียมและสาร พฤกษฮอร์โมนที่เป็นไฟโตเอสโตรเจนป้องกันมะเร็งและลดไขมัน โดยมีข้อแม้คืออย่าหนัก เส้นมากไป

5.ข้าวหอมนิล ข้าวไทยหนึ่งในตองอูที่ดูเด่นด้วยสีม่วงเข้มเตะตา ที่อัดแน่นอยู่ในสีสวยนั่นคือสาร พฤกษเคมีที่มีพลังมากกว่าวิตามินอีกับซีรวมกัน ข้าวหอมนิลสามารถเอามาจัดเมนูคู่ปีใหม่ได้ง่ายๆ ยกตัวอย่างน้ำพริกปลาทูข้าวหอมนิล หรือจะกินคู่กับไข่เจียวร้อนๆ


6.ข้าวตอกน้ำกะทิ ขนมไทยช่วงปีใหม่ที่ถูกลืมไปนาน  อยากขอให้ช่วยกันปลุกให้คืนชีพมาใหม่เพราะมีคุณค่าทางอายุรวัฒน์มาก  นับตั้งแต่ตัวข้าวตอกที่มี เส้นใยช่วยในเรื่องไขมันและน้ำตาลได้  ส่วนวิตามินข้างในนั้นก็เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์



7.ข้าวต้มมัดหรือข้าวเหนียวปิ้งใส่ไส้ เป็นเมนูที่อยู่ท้องและมีประโยชน์ครบเครื่องมากเพราะมีทั้ง 5 หมู่อยู่ในนั้น ส่วนวิตามินก็มีทั้งเอ,บี,ซี   นอกจากนั้นในกล้วยยังมีเส้นใยกับสารกลุ่มฟีนอลชื่อ กรดเอลลาจิกช่วยต้านมะเร็งและเนื้องอกได้ด้วย


8.ข้าวเหนียวดำน้ำกะทิ นอกจากข้าวเหนียวแล้วยังมีเผือก, ลำไย, ลูกเดือยและธัญพืชอื่นๆ ซึ่งถือเป็นแหล่งรวมไฟเบอร์ชั้นสูง ช่วยขัดล้างตั้งแต่หลอดอาหารลงมาถึงลำไส้ใหญ่  ส่วนตัวข้าวเหนียวดำเองมี วิตามินอีและ ธาตุเหล็กสูงมาก  รวมถึง ธาตุม่วงต้านร่วงโรย (OPCs)”



9.ข้าวโพดม่วง  มีทั้งวิตามินบำรุงตาอย่าง ลูทีนกับ ซีแซนทินทำได้หลายเมนู เช่น ข้าวโพดม่วงเปียกราดกะทิกิน, ข้าวโพดปิ้ง ข้าวโพดม่วงคลุก เป็นต้น



10.น้ำสมุนไพรแสนชื่นใจ  เช่น น้ำอัญชัน, กระเจี๊ยบ, น้ำย่านาง, น้ำใบบัวบก  น้ำเหล่านี้ถือเป็นน้ำวิตามินชั้นดี จัดเป็นน้ำนางเอกของแท้  เริ่มตั้งแต่อัญชันมีวิตามินสีม่วงที่ช่วยปกป้องผิวและบำรุงตับ  ส่วนน้ำกระเจี๊ยบก็มีวิตามินซีและเอช่วยบำรุงไตได้ ส่วนน้ำใบย่านางกับใบบัวบก ประกอบด้วย คลอโรฟิลล์” “กลูต้าไทโอนที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
ข้อมูลจาก http://news.mthai.com และภาพจาก อินเทอร์เน็ต

วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เตือนเด็กมีพฤติกรรมเท้าคาง"ทำให้ฟันเหยิน-มีปัญหารูปหน้า-ขากรรไกรไม่เจริญเติบโต"




นสพ. มติชน รายงานข่าวเมื่อ 24  ธันวาคม 2555 ว่า ทันตแพทย์สุธา เจียรมณีโชติชัย ผู้อำนวยการ สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กล่าวถึงพฤติกรรมการเท้าคางของเด็กว่า เด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป เป็นวัยที่ฟันแท้เริ่มขึ้น การเท้าคางจะทำให้ขากรรไกรล่างไม่เจริญเติบโต เกิดปัญหา ฟันเหยิน ลักษณะคล้ายฟันม้า คือฟันบนยื่นยาวมากกว่าฟันล่าง นอกจากจะมีปัญหาเรื่องของรูปหน้า  แล้วจะมีปัญหาเรื่องการบดเคี้ยว เพราะฟันไม่สบกันพอดี อาจต้องเสียค่าจัดฟันใหม่



ทั้งนี้ ขอแนะนำการดูแลสุขภาพฟันที่ดี ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีคุณค่าทางโภชนาการ งด หรือ ลด การกินอาหารจุบจิบ ให้รับประมานอาหารหลักครบ 3 มื้อ  หากเป็นอาหารนอกมื้อหรือระหว่างมื้อควรจะรับประทานผลไม้สดแทน เพราะมีน้ำตาลไม่มาก ไม่ทำให้น้ำตาลติดตามซอกฟัน ซึ่งเป็นต้นเหตุฟันผุ

นอกจากนี้ควรแปรงฟันให้ทั่วถึงทั้งปาก แปรงอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือตอนเช้า และก่อนนอน แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ แนะนำใช้ไหมขัดฟัน ซึ่งสามารถทำความสะอาดซอกฟันได้ดีไม่ทำฟันห่าง ควรตรวจสุขภาพช่องปากด้วยตนเองเป็นประจำ และไปรับบริการตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน หากพบปัญหาจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที  


วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555

กระเพราไข่ดาว เป็นเมนูสิ้นคิดจริงเหรอ ??



มีหลายคนเรียกอาหารจานนี้ว่า "อาหารเมนูสิ้นคิด" เพราะเวลาไปกินข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งแล้ว คิดเมนูไม่ออกว่าจะกินอะไรดี ก็จะนึกถึง  "ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว" เป็นอันดับต้นๆ

ทีนี้เรามาดูกันว่า ในอาหารจานนี้มีอะไรบ้างและมันมีประโยชน์อย่างไรบ้าง

           ส่วนประกอบหลัก ได้แก่ ใบกะเพรา กระเทียม พริกขี้หนู น้ำมัน เนื้อไก่ น้ำเปล่า น้ำปลา น้ำตาล พริกไทยป่น และข้าวสุก แต่บางร้านอาจจะใส่ผัก เช่น ถั่วฝักยาว หรือข้าวโพดอ่อน ลงไปด้วย
                   ขั้นตอนการทำ  เริ่มปรุงด้วย การเจียวกระเทียมพอเหลือง ใส่พริกขี้หนู เนื้อไก่ เติมน้ำ
 ผัดจนสุก ใส่ ถั่วฝักยาว หรือข้าวโพดอ่อน (ถ้าต้องการ) แล้วปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล พริกไทยป่น แล้วใส่ใบกะเพราลงไปตอนท้าย ตักข้าวสุกใส่จาน ราดด้วยผัดกะเพราที่เพิ่งทำเสร็จ   แล้วทอดไข่ดาววางบนเป็นอันเสร็จพิธี


และคุณรู้หรือไม่ว่า...
"ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว"จานนี้มีพลังงานประมาณ 500-600 กิโลแคลอรี่



ประโยชน์ที่แท้จริงและคุณค่าทางโภชนาการ

1. ข้าว                       ให้พลังงานและความอบอุ่น
2. เนื้อไก่/หมู ไข่          ให้โปรตีนและเกลือแร่ ช่วยในการเจริญเติบโตและ    ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
                                ของร่างกาย

3. ใบกะเพรา                แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม มีแคลเซียม มีเบต้า-แคโรทีนและวิตามินซี
                                ทำหน้าที่ร่วมกัน
  เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านมะเร็ง
4. พริก                       ให้วิตามินซี เบต้า-แคโรทีน ความเผ็ดจากสารแคปไซซินในพริกมีคุณสมบัติ
                                ต้านอนุมูลอิสระ
 
และช่วยขัดขวางสารมะเร็งไม่ให้ทำร้ายเซลล์
5. กระเทียม                 ให้สารออร์แกโนซัลเฟอร์ต่อต้านการเจริญเติบโตของแบคทีเรียบางชนิด
                                ที่ก่อมะเร็งได้ 
สามารถกระตุ้นระบบทำลายสารพิษจึงต้านฤทธิ์สารก่อมะเร็งได้
6. ถั่ว                         มีเบต้า-แคโรทีน และวิตามินซี ที่ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระ และมีใยอาหารดัก
                                จับสารพิษได้

7. ข้าวโพดอ่อน            มีเส้นใยอาหาร ช่วยระบาย ป้องกันมะเร็งลำไส้
             
 เห็นคุณค่าของอาหารจานนี้แล้ว มันตรงข้ามกับคำว่า "อาหารเมนูสิ้นคิด" ไปเลย ใครที่ไม่ชอบ ไม่กินเลย น่าจะ "สิ้นคิด" เสียมากกว่านะ

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วมื้อต่อไป เที่ยงนี้ ก็สั่ง กระเพราไก่ไข่ดาวมากินก็แล้วกัน

ข้อมูลและภาพจาก  http://board.postjung.com