โดยประเภทของยาที่มีผลข้างเคียงในระดับอันตราย อาทิ ยาลดความดันเลือดสูง ยามะเร็ง และยาลดระดับคอเลสเตอรอล หรือยาที่ใช้เพื่อกดระบบภูมิต้านทาน หลังจากเข้ารับการปลูกถ่ายอวัยวะ
โดยมีรายงานว่า ผู้ป่วยที่ดื่มน้ำเกรพฟรุ๊ตหนึ่งแก้ว พร้อมกับยา felodipine ซึ่งเป็นหนึ่งในยาลดความดัน ส่งผลให้มีระดับยาสูงสุดในพลาสมาสูงกว่าผู้ป่วยที่ดื่มน้ำเปล่าถึง 3 เท่า
ขณะที่ความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับประเภทของยา ซึ่งรวมถึงอาการเลือดออกในกระเพาะอาหาร หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ไตเสียหายเฉียบพลัน หรือเสียชีวิต
การทานยาหนึ่งเม็ดร่วมกับน้ำเกรพฟรุ๊ตหนึ่งแก้ว อาจส่งผลให้เกิดอาการคล้ายการทานยา 5 หรือ 10 เม็ดพร้อมกันพร้อมน้ำหนึ่งแก้ว และคนส่วนใหญ่มักไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้จริง เนื่องจากการขาดการให้ความเข้าใจต่อผู้ป่วย ผู้ป่วยที่มีอาการปกติ อาจมีอาการถึงขึ้นเสียชีวิต เพียงเพราะกินยาและน้ำดังกล่าวพร้อมกัน (อ่านรายระเอียด)
ใช่เลย... เราก็พบบ่อย เพื่อนเราบางคนชอบกินยากับน้ำผลไม้บ้าง กาแฟบ้าง ชาบ้าง นมบ้าง
เห็นหมอบอกว่า น้ำบางชนิดก็เพิ่มประสิทธิภาพยาเป็นหลายเท่า... เกินความต้องการของร่างกาย
แต่บางชนิดก็ขัดขวางการดูดซึม ทำให้ยาไม่ออกฤทธ์รักษา หรือมีผลทางการรักษาน้อย
เอ้า ...ใครที่มีพฤติกรรมแบบนี้ก็เลิกซะนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน......
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น